หน่วยที่ 10 การเรียนการสอนแบบผสมผสาน
เบล็นเด็ด เลินนิ่ง หมายถึง กระบวนการเรียนรู้
ที่ผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย
ไม่ว่า
จะเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
ผสมผสานกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ผู้เรียนผู้สอนไม่
เผชิญหน้ากัน
หรือการใช้แหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่หลากหลาย กระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเกิดขึ้น
จากยุทธวิธี
การเรียนการสอนที่หลากรูปแบบ
เป้าหมายอยู่ที่การให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้
เป็นสำคัญ
การสอนด้วยวิธีการเรียนรู้แบบผสมผสานนั้น
ผู้สอน สามารถใช้วิธีการสอน สองวิธีหรือมากกว่า ในการเรียน
การสอน เช่น
ผู้สอนนำเสนอเนื้อหาบทเรียนผ่านเทคโนโลยีผนวกกับการสอนแบบเผชิญหน้า
แต่หลังจากนั้น
ผู้สอนนำเนื้อหาบทความแขวนไว้บนเว็บ
จากนั้นติดตามการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้อีเลินนิ่ง
ด้วยระบบแอลเอ็มเอส
(Learning Management System ) ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องแล็บ
หลังจากนั้นสรุป
บทเรียน ด้วยการอภิปรายร่วมกับอาจารย์ผู้สอนในห้องเรียน
"Blended learning เป็นสิ่งสำคัญของการศึกษาและเทคโนโลยี, blended learning มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่าง
รวดเร็ว, เป็นการบูรณาการระหว่างการเรียนในชั้น
เรียนและการเรียนแบบออนไลน์, สามารถช่วยส่งเสริม
การเรียนรู้ของผู้เรียนและ
การใช้เวลาในชั้นเรียนได้เหมาะสม"

การเรียนแบบผสมผสาน
(Blended learning)การเรียนแบบผสมผสาน เป็นการรวมกันหรือนำสิ่งต่างๆมา
ผสม
โดยที่สิ่งที่ถูกผสมนั้น คือ
- รวม รูปแบบการเรียนการสอน
- รวม วิธีการเรียนการสอน
- รวม การเรียนแบบออนไลด์
และรูปแบบการเรียนการสอนในชั้นเรียนการเติบโตของการเรียนแบบ
ผสมผสานตั้งแต่ อดีต ปัจจุบันและอนาคตการเรียนรู้แบบผสมผสาน
โดยในอดีตนั้น การเรียนแบบผสม
ผสานคือส่วนที่ได้มีการรวมเข้าหากันจาก 2 รูปแบบสภาพแวดล้อมของการเรียนแบบเดิม นั้นก็คือ
การ
เรียนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียนกับ การเรียนแบบออนไลน์
ซึ่งในอดีตนั้นการเรียนทั้ง 2 รูปแบบจะมีช่อง
ว่างหรือระยะห่างระหว่างกันค่อยข้างมาก
คือจะมีการจัดการเรียนการสอนเฉพาะของตัวเองมีรูปแบบ
และการดำเนินการในรูปแบบที่ต่างกันเพราะว่าต่างก็ใช้สื่อและเครื่องมือที่
แตกต่างกัน
และมีสถานที่ใน
การเรียนที่แตกต่างกันเพราะมีกลุ่มผู้เรียนที่ต่างกันด้วย
แต่ในขณะเดียวกันนั้นการเรียนแบบทางไกลก็
กำลังมีการเติบโตและแผ่ขยายอย่าง
รวดเร็วซึ่งได้เข้ามาในรูปของเทคโนโลยีใหม่
ที่มีความเป็นไปได้อย่าง
สูงที่การเรียนแบบออนไลน์นั้นจะมีการแผ่ขยายเข้ามา
สู่การเรียนในชั้นเรียนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันการ
เรียนแบบออนไลน์นั้นได้
เข้ามามีส่วนร่วมในการติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมในการเรียนการสอน
ใน
ชั้นเรียนเกิดเป็นการเรียนแบบผสมผสานขึ้นมาซึ่งคาดว่าในอนาคตนั้นการเรียน
แบบผสมผสานจะมี
การขยายตัวที่มากขึ้นตามรูปแบบการเรียนแบบออนไลน์ที่จะมีการ
เติบโตขึ้นมากกว่าปัจจุบัน
จึงส่งผล
ให้การเรียนแบบผสมผสานนั้นมีการขยายวงกว้างออกไปจากเดิมยิ่งขึ้นอีก ด้วย

การเรียนแบบผสมผสานสรุป Blended Learning การเรียนการสอนแบบผสมผสาน
ความหมายและความ
สำคัญ
1. การเรียนแบบผสมผสาน (blended learning) เป็นการเรียนที่ใช้กิจกรรมที่ต้องออนไลน์และการพบปะ
กันในห้องเรียนจริง
(hybrid) โดยใช้สื่อที่มีความหลากหลายเหมาะกับบริบทและสถานการณ์
การเรียนรู้
เพื่อตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. การเรียนแบบผสมผสาน เป็นการรวมกันหรือนำสิ่งต่าง ๆ มาผสม
โดยที่สิ่งที่ถูกผสมนั้น การเรียนอาจ
จะเรียนในห้องเรียน 60% เรียนบนเว็บ 40% ไม่ได้มีกฎตายตัวว่าจะต้องผสมผสานกันเท่าใด
เช่น- รวม รูป
แบบการเรียนการสอน- รวม วิธีการเรียนการสอน- รวม การเรียนแบบออนไลน์
และรูปแบบการเรียนการ
สอนในชั้นเรียน
3. การเรียนแบบผสมผสาน (Blended learning) การเติบโตของการเรียนแบบผสมผสานตั้งแต่อดีต
ปัจจุบัน
และอนาคตการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดยในอดีตนั้น
การเรียนแบบผสมผสานคือส่วนที่ได้มีการรวมเข้าหา
กัน จาก 2 รูปแบบ
3.1 สภาพแวดล้อมของการเรียนแบบเดิม
นั้นก็คือ การเรียนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียน
3.2 การเรียนแบบออนไลน์
ซึ่งในอดีตนั้นการเรียนทั้ง 2 รูปแบบจะมีช่องว่างหรือระยะห่างระหว่างกันค่อย
ข้างมาก
คือจะมีการจัดการเรียนการสอนเฉพาะของตัวเองมีรูปแบบ
และการดำเนินการในรูปแบบที่ต่างกัน
เพราะว่าต่างก็ใช้สื่อและเครื่องมือที่
แตกต่างกัน
และมีสถานที่ในการเรียนที่แตกต่างกันเพราะมีกลุ่มผู้เรียนที่
ต่างกันด้วย
แต่ในขณะเดียวกันนั้นการเรียนแบบทางไกลก็กำลังมีการเติบโตและแผ่ขยายอย่าง รวดเร็ว
ซึ่งได้
เข้ามาในรูปของเทคโนโลยีใหม่
ที่มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่การเรียนแบบออนไลน์นั้นจะมีการแผ่ขยายเข้า
มา
สู่การเรียนในชั้นเรียนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันการเรียนแบบออนไลน์นั้นได้
เข้ามามีส่วนร่วมในการติดต่อ
สื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วม
ในการเรียนการสอนในชั้นเรียนเกิดเป็นการเรียนแบบผสมผสานขึ้นมาซึ่งคาด
ว่าใน
อนาคตนั้นการเรียนแบบผสมผสานจะมีการขยายตัวที่มากขึ้นตามรูปแบบการเรียน
แบบออนไลน์ที่จะมี
การเติบโตขึ้นมากกว่าปัจจุบัน จึงส่งผลให้การเรียนแบบผสมผสานนั้นมีการขยายวงกว้างออกไปจากเดิมยิ่งขึ้น
อีก
ด้วย

1. การเรียนการสอนแบบผสมผสาน Blended Learning เป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานหลากหลายวิธี
เพื่อให้ผู้
เรียนได้มีการเรียนรู้ที่หลากหลาย
และเพื่อผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพเหมาะกับบริบทและสถานการณ์ การ
เรียนรู้และตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลเกิดการเรียนรู้และเกิดทักษะ
ด้านการปฏิบัติ
(Practice Skill )โดยใช้เทคโนโลยี เช่น
การเรียนการสอนในชั้นเรียนร่วมกับการเรียนการสอนแบบ
ออนไลน์
(a combination
of face-to-face and Onine Learning) การเรียนแบบหมวก 6 ใบ, สตอรี่ไลน์ จุดมุ่งหมาย
สูงสุดอยู่ที่
ผู้เรียน
โดยอัตราส่วนการผสมผสาน จะขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อหา
และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
กรณี - ครูผู้
สอนสั่งงานทาง e-mail หรือ chatroom หรือ webbord ถือเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสาน-
ครูสั่งให้ส่งงาน
เป็นรูป
เล่มรายงานถือว่าเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานเช่นกัน
เพราะต้องไปค้นคว้าสืบค้นข้อมูลและนำมาอภิปราย
สรุป
เนื้อหาเป็นแนวเดียวกัน
ผู้เรียนทุกคนเข้าใจตรงกัน
2. การใช้งานจริง ณ ขณะนี้ สรุป การใช้ Blended Learning ในองค์กร หรือบริษัท ช่วยในการประชุม การสั่งงาน
โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระบบเครือข่าย ส่วนมาก นิยมใช้ระบบ LMS เป็นระบบการบริหาร ผ่าน
Sever เป็น
ระบบเครือข่ายผู้ใช้งานในระบบ
2.1 กลุ่มผู้บริหาร Administrator ทำหน้าที่ดูแลระบบ
2.2 กลุ่ม ครู อาจารย์ Instructor/ teacher ทำหน้าที่สอน
2.3 กลุ่มผู้เรียน Student /Guest นักเรียน
นักศึกษาสำหรับขั้นตอนการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานของ
Beijing
Normal University (BNU) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักดังนี้
1. ขั้นก่อนการวิเคราะห์ (Pre-Analysis) เป็นขั้นตอนแรกของการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน
ประกอบ
การพิจารณาข้อมูลทั่ว ๆ ไป ได้แก่
1.1 การวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้เรียน
1.2 การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ในการเรียนรู้
1.3 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของการเรียนรู้แบบผสมผสานผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรก
จะเป็นรายงานผลที่
จะนำไปใช้ในขั้นต่อไป
2. ขั้นการออกแบบกิจกรรมและการออกแบบวัสดุการเรียนรู้ (Design of
Activity and Resources) เป็นขั้นตอนที่
สองที่นำผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรกมาออกแบบกิจกรรมและวัสดุ
การเรียนรู้ ซึ่งจำแนกออกเป็น
3 ส่วนย่อย ๆ ได้แก่
2.1 การออกแบบภาพรวมของการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย
- กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละหน่วยเรียน
- กลยุทธ์การนำส่งบทเรียนในการเรียนรู้แบบผสมผสาน
- ส่วนสนับสนุนการเรียนรู้แบบผสมผสาน
2.2 การออกแบบกิจกรรมแต่ละหน่วยเรียนประกอบด้วย
- นิยามผลการกระทำของผู้เรียน
- กิจกรรมในแต่ละวัตถุประสงค์
- การจัดกลุ่มของกิจกรรมทั้งหมด
- การประเมินผลในแต่ละหน่วยเรียน
2.3 การออกแบบและพัฒนาวัสดุการเรียนรู้ประกอบด้วย
- การเลือกสรรเนื้อหาสาระ
- การพัฒนากรณีต่าง ๆ
- การนำเสนอผลการออกแบบและการพัฒนาผลที่ได้จากขั้นตอนที่สอง
จะเป็นรายละเอียดของการออกแบบ
บทเรียนในแต่ละส่วน
3. ขั้นการประเมินผลการเรียนการสอน (Instructional Assessment) เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการออกแบบการ
เรียนรู้แบบผสมผสานประกอบด้วย
3.1 การประเมินผลขั้นตอนการเรียนรู้
3.2 การจัดการสอบตามหลักสูตร
3.3 การประเมินผลกิจกรรมทั้งหมดผลที่ได้จากขั้นตอนสุดท้าย
จะนำไปพิจารณาตรวจปรับกระบวนการออกแบบ
ในแต่ละขั้นที่ผ่านมาทั้งหมด
เพื่อให้การเรียนรู้แบบผสมผสานมีประสิทธิภาพและเกดประสิทธิผลกับผู้เรียน
อย่างแท้จริง

การเรียนรู้แบบผสมผสานมีสิ่งต่างๆจะต้องพิจารณา ดังนี้
1. เพิ่มทางเลือกของวิธีการนำส่งการเรียนรู้ไปยังผู้เรียนให้มีความหลากหลายมากขึ้น
จะเป็นปัจจัย
สำคัญสำหรับผู้ออกแบบ
2. เกณฑ์การตัดสินความสำเร็จในการเรียนรู้แบบผสมผสานไม่ได้มีเพียงเกณฑ์เดียว
เช่น รูปแบบการเรียนรู้
และวิธีการเรียนรู้ ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้
3. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานจะต้องพิจารณาประเด็นของความเร็วในการเรียน
รู้ ขนาดของผู้เรียน
และการสนับสนุนช่วยเหลือผู้เรียน
4. สภาพแวดล้อมทางการเรียนของผู้เรียน
จะมีความแตกต่างกันเป็นธรรมชาติซึ่งการจัดการเรียนรู้จะต้อง
สนับสนุนให้ผู้
เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นสำคัญ
5. หน้าที่ของผู้เรียน จะต้องศึกษาและค้นพบตัวเอง
เพื่อสร้างสรรค์ความรู้ตามศักยภาพของตนเอง
6. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานต้องการทีมงานออกแบบที่มีความรู้เรื่องการปรับปรุงด้านธุรกิจด้วย
เช่นกัน
กรณี - การเรียนการสอนทางไกลของ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ)
ถือว่าเป็นการเรียน
การสอนแบบผสมผสานเช่นกัน
- คอร์สการเรียนภาษาอังกฤษทางไกล ของ แอนดรูส์
บิ๊ก ที่ใช้ระบบ
(Blended Learning for Distance Learning) ซึ่งสามารถสอนนักเรียนพร้อมกันทีเดียวได้เป็นพันคน

3. ประโยชน์ ข้อดี และข้อเสีย
ประโยชน์ ข้อดี
1. แบ่งเวลาเรียนอย่างอิสระ
2. เลือกสถานที่เรียนอย่างอิสระ
3. เรียนด้วยระดับความเร็วของตนเอง
4. สื่อสารอย่างใกล้ชิดกับครูผู้สอน
5. การผสมผสานระหว่างการเรียนแบบดั้งเดิมและแบบอนาคต
6. เรียนกับสื่อมัลติมีเดีย
7. เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง Child center
8. ผู้เรียนสามารถมีเวลาในการค้นคว้าข้อมูลมาก
สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลได้อย่างดี
9. สามารถส่งเสริมความแม่นยำ ถ่ายโอนความรู้จากผู้หนึ่งไปยังผู้หนึ่งได้
สามารถทราบผลปฏิบัติย้อนกลับได้
รวดเร็ว
10. สร้างแรงจูงใจในบทเรียนได้
11. ให้แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้
12. สามารถทบทวนความรู้เดิม และสืบค้นความรู้ใหม่ได้ตลอดเวลา
13. สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่รบกวนภายในชั้นเรียนได้
ทำให้ผู้เรียนมีสมาธิในการเรียน
14. ผู้เรียนมีช่องทางในการเรียน สามารถเข้าถึงผู้สอนได้
15. เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ค่อนข้างขาดความมั่นใจในตัวเอง
16. ใช้ในบริษัท หรือองค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนในการอบรม สัมมนาได้

ข้อเสีย
1. ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือถ่ายทอดความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว
2. มีความล่าช้าในการปฏิสัมพันธ์
3. การมีส่วนร่วมน้อย โดยผู้เรียนไม่สามารถมีส่วนร่วมทุกคน
4. ความไม่พร้อมด้าน ซอฟแวร์ Software บางอย่างมีราคาแพง
(ของจริง)
5. ใช้งานค่อนข้างยาก สำหรับผู้ไม่มีความรู้ด้าน ซอฟแวร์ Software
6. ผู้เรียนบางคนคิดว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะราคาอุปกรณ์ค่อนข้างสูง
7. ผู้เรียนต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
8. ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสูง ในการเรียนการสอนแบบนี้
9. ความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคนเป็นอุปสรรคในการเรียนการสอนแบบผสมผสาน
10. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมในการใช้เครือข่าย หรือระบบอินเทอร์เน็ต
เกิดปัญหาด้านสัญญาณ
11. ขาดการปฏิสัมพันธ์แบบ face to face (เรียลไทม์)

ความเป็นไปได้ในการไปใช้งานจริงของ Blended Learning การเรียนการสอนแบบผสมผสาน
1. มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค ICT ทำให้มีการเรียนรู้ที่หลากหลายวิธี
เช่น 2 วิธี หรือมากกว่านั้นได้
2. ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ e-Learning
3. สามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานศึกษา เช่น โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย รวมไปถึง
บริษัท องค์กร ต่าง ๆ เพื่อ
ประหยัดงบประมาณและต้นทุน
จัดการเรียนการสอน อุปกรณ์ ผู้เรียน และผู้สอน
